“ร่วมอยู่ ร่วมเจริญ” เป็นแนวทางที่กลุ่มมิตรผลยึดถือในการดำเนินงานมาโดยตลอด ระยะเวลากว่า 7 ทศวรรษที่เราได้ร่วมขับเคลื่อนภาคการเกษตรไทยด้วยความเชื่อมั่นว่าพลังสำคัญที่จะนำพาประเทศไทยและโลกใบนี้ไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนย่อมเกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนในห่วงโซ่อุปทาน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคเกษตรกร และภาคประชาสังคม กลุ่มมิตรผลจึงตระหนักถึงบทบาทและความรับผิดชอบที่มีต่อผู้มีส่วนได้เสียในการสร้างการเติบโตที่มีคุณภาพทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมให้พร้อมรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ ในขณะที่โลกกำลังเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และความผันผวนของระบบเศรษฐกิจโลก
กลุ่มมิตรผล ยังคงดำเนินธุรกิจบนหลักแห่งการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่ครอบคลุมในทุกมิติและสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนผลกระทบเชิงบวกในระดับประเทศและระดับสากลอย่างต่อเนื่อง เราเดินหน้าปรับเปลี่ยนและพัฒนาการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรม โดยบูรณาการหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืนเข้ากับทุกภาคส่วน ตั้งแต่ส่งเสริมเกษตรกรด้วยการจัดการไร่อ้อยยุคใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เน้นย้ำการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งทรัพยากรน้ำซึ่งเปรียบเสมือนรากฐานความมั่นคงของเกษตรอุตสาหกรรม เรานำนวัตกรรมมาช่วยยกระดับการทำงานตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนและสังคมโดยรอบ ปัจจุบันกลุ่มมิตรผลไม่เพียงเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมอ้อย น้ำตาล พลังงานหมุนเวียน และอุตสาหกรรมต่อเนื่องในประเทศไทยและต่างประเทศเท่านั้น หากยังได้รับการยอมรับในฐานะผู้นำระดับโลกด้านความยั่งยืน สะท้อนถึงเจตนารมณ์และความตั้งใจที่จะเติบโตอย่างมีคุณภาพไปพร้อมกับการสร้างผลลัพธ์ที่ดีต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
นายบรรเทิง ว่องกุศลกิจ
ประธานกรรมการ กลุ่มมิตรผล