Mitr Phol Group Sustainability

Edit Template

มีส่วนได้เสียหลัก : ผู้ถือหุ้น / ลูกค้าและผู้บริโภค / ภาครัฐและองค์กรภาคประชาสังคม

ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลและเทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในการดำเนินธุรกิจ ทั้งเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กร และการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ดังนั้นการบริหารจัดการความปลอดภัยทางไซเบอร์และการคุ้มครองข้อมูลอย่างเหมาะสมจึงมีความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ส่งเสริมให้เกิดการเข้าถึงและนำข้อมูลมาใช้อย่างถูกต้องและเกิดประสิทธิภาพ ร่วมไปถึงการส่งเสริมความมั่นคงและปลอดภัยทางไซเบอร์ นอกจากนี้ ยังเป็นการเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้บริษัทมีความได้เปรียบในการแข่งขัน อย่างไรก็ดี การนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อส่งเสริมการปฏิบัติงานจำเป็นต้องมีความระมัดระวังและรอบคอบ เนื่องจากการใช้เทคโนโลยีอาจกลายเป็นช่องทางที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อธุรกิจ หากไม่มีการบริหารจัดการความปลอดภัยทางไซเบอร์อย่างเหมาะสม

เป้าหมายและผลการดำเนินงานของปี 2567

เป้าหมาย
ผลการดำเนินงาน
ระยะเวลาการตอบสนองต่อเหตุละเมิดด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์
ไม่เกิน 4 ชั่วโมง
ไม่มีเหตุละเมิดด้านความปลอดภัย
มีการทดสอบความตระหนักรู้ด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ด้วยวิธีการ Phishing Simulation Test
ปีละ 2 ครั้ง
2 ครั้ง
มีการซ้อมแผนรับมือเหตุผิดปกติทาง ไซเบอร์ Cyber Drill แบบ Simulation ร่วมกับทีมปฏิบัติงาน
ปีละ 1 ครั้ง
1 ครั้ง
มีการซ้อมแผนรับมือเหตุผิดปกติทาง ไซเบอร์ Cyber Drill แบบ Tabletop Exercise ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ปีละ 1 ครั้ง
1 ครั้ง

แนวทางการบริหารจัดการ

โครงสร้างการบริหารงานด้านความปลอดภัยของข้อมูล

ความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการดำเนินธุรกิจ คณะกรรมการบริษัทจึงได้มอบหมายให้คณะกรรมการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลและความปลอดภัยทางไซเบอร์ ทำงานร่วมกับคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง และคณะกรรมการตรวจสอบ โดยมีคณะกรรมการบริหารเป็นผู้นำนโยบายไปสู่ภาคปฏิบัติและได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer – DPO) และหัวหน้าเจ้าหน้าที่ความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (Chief Information Security Officer – CISO) เพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่โดยเฉพาะและดำเนินงานร่วมกับกลุ่มงาน Digital and Technology Transformation ดูแลรับผิดชอบด้านความมั่นคงปลอดภัยเทคโนโลยีสารสนเทศ ไซเบอร์ และข้อมูลโดยตรง โดยมีรายละเอียดในบทบาทหน้าที่ของแต่ละตำแหน่งที่เกี่ยวข้องดังนี้

คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง

มีบทบาทหน้าที่ในการกำหนดนโยบาย วัตถุประสงค์ แนวปฏิบัติในการบริหารจัดการความเสี่ยง สนับสนุนการดำเนินงาน ติดตามและประเมินผลการบริหารความเสี่ยง รวมถึงให้ข้อเสนอแนะการบริหารจัดการความเสี่ยง เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของกลุ่มมิตรผลให้บรรลุตามเป้าหมายธุรกิจและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้มีส่วนได้เสียขององค์กร โดยความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ความปลอดภัยทางไซเบอร์และข้อมูลถือเป็นหนึ่งในความเสี่ยงหลักขององค์กร ซึ่งได้รับการติดตามกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดโดยคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง

คณะกรรมการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลและความปลอดภัยทางไซเบอร์

มีบทบาทหน้าที่ในการกำหนดนโยบาย และสนับสนุนการนำนโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ และความปลอดภัยของข้อมูล ไปปฏิบัติให้ครอบคลุมทุกหน่วยธุรกิจของกลุ่มมิตรผล รวมไปถึงการบริหารจัดการด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของบริษัท

คณะกรรมการตรวจสอบ

มีบทบาทหน้าที่ในการสอบทานการดำเนินงานขององค์กรอย่างเป็นอิสระ เพื่อให้มั่นใจได้ว่ามีการบริหารจัดการความเสี่ยงและการควบคุมภายในที่เหมาะสมและเป็นไปตามแนวปฏิบัติที่ดี ตลอดจนปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง  โดยการสอบทานการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารความเสี่ยงและการควบคุมด้านความมั่นคงปลอดภัยทางเทคโนโลยีสารสนเทศ  ไซเบอร์ และข้อมูล เป็นหนึ่งในขอบเขตงานที่ได้รับการติดตามและตรวจสอบโดยคณะกรรมการตรวจสอบ

หัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์

ดำรงตำแหน่งโดยผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงาน Digital and Technology Transformation มีบทบาทในการนำนโยบายจากคณะกรรมการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลและความปลอดภัยทางไซเบอร์ มากำหนดเป็นกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและบริหารจัดการการดำเนินงานของทุกหน่วยงานภายใต้กลุ่มงาน Digital and Technology Transformation ซึ่งประกอบด้วย งานด้านการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล (Digital Transformation) งานพัฒนาระบบและ Business Solution งานโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที (IT Infrastructures) และงานความปลอดภัยด้านไอที ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ และความปลอดภัยของข้อมูล เพื่อสนับสนุนความต้องการทางธุรกิจและการดำเนินงานของหน่วยธุรกิจให้เป็นไปตามเป้าหมายองค์กร พร้อมทั้งรายงานผลการดำเนินงานให้คณะกรรมการชุดนี้รับทราบ

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

มีบทบาทหน้าที่ให้คำแนะนำ ตรวจสอบการดำเนินงาน และสนับสนุนให้ทุกหน่วยงานภายในกลุ่มมิตรผลปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงการจัดให้มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของกลุ่มมิตรผลตามที่กฎหมายกำหนดและยกระดับให้เทียบเท่ามาตรฐานสากล

หน่วยงาน Enterprise Security Management และ หน่วยงาน Enterprise Infrastructure Solutions ภายใต้กลุ่มงาน Digital and Technology Transformation

มีบทบาทหน้าที่ในการวางแผน พัฒนา และบริหารจัดการระบบเทคโนโลยี ระบบสารสนเทศ ข้อมูลสารสนเทศ (รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคล) ของกลุ่มมิตรผล ให้มีความมั่นคงปลอดภัย โดยรักษาไว้ซึ่งการรักษาความลับ (Confidentiality) ความถูกต้องสมบูรณ์ (Integrity) และความพร้อมใช้งาน (Availability) โดยจัดให้มีการประเมินความเสี่ยงและการควบคุมด้านความมั่นคงปลอดภัยเทคโนโลยีสารสนเทศ ไซเบอร์ และข้อมูล รวมถึงจัดการความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่องค์กรยอมรับได้ตลอดจนเฝ้าระวังและตรวจจับเหตุการณ์ผิดปกติ ตอบสนองและรับมือต่อเหตุการณ์ผิดปกติให้กลับสู่สภาพปกติโดยเร็วและจำกัดความเสียหายที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ นอกจากนี้ยังมีบทบาทหน้าที่ในการเสริมสร้างความตระหนักรู้ให้กับบุคลากรของกลุ่มมิตรผล ผู้ให้บริการภายนอก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

กรอบการบริหารความเสี่ยงด้านภัยไซเบอร์
และความปลอดภัยของข้อมูล

มิตรผลได้กำหนดนโยบายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้แก่ นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของกลุ่มมิตรผล นโยบายการกำกับดูแลข้อมูล และนโยบายการกำกับดูแลการประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งประกาศใช้และถือปฏิบัติทั่วทั้งกลุ่มมิตรผลและกำหนดให้มีการทบทวนให้มีความเป็นปัจจุบันทุกปี อีกทั้งยังกำหนดกรอบการบริหารความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและความปลอดภัยของข้อมูล เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่สำคัญ ดังนี้

Catalyst Strategy 2027

ด้วยความมุ่งหวังที่จะบรรลุซึ่งการเปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่ยุคดิจิทัลอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการสร้างผลกระทบที่วัดผลได้และนำองค์กรสู่ความสำเร็จในระยะยาว มิตรผลจึงได้กำหนดกลยุทธ์ด้านการบริหารจัดการดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้ 3 เสาหลัก (3Cs) และ 7 ด้านยุทธศาสตร์สำคัญ

การบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ

มิตรผลจัดโครงสร้างองค์กรตามแนวทางป้องกันความเสี่ยง 3 ระดับ (Three Lines of Defense) เพื่อส่งเสริมให้มีกลไกการตรวจสอบและถ่วงดุลที่เหมาะสม ซึ่งประกอบด้วย

การยกระดับมาตรการป้องกันภัยไซเบอร์และการสร้างวัฒนธรรมองค์กร
ด้านการป้องกันภัยไซเบอร์

กลุ่มมิตรผลให้ความสำคัญกับการพัฒนามาตรการป้องกันภัยไซเบอร์อย่างรอบด้าน โดยมุ่งเน้นการพัฒนาด้านบุคลากร (People) ด้านกระบวนการ (Process) และด้านเทคโนโลยี (Technology) เพื่อลดความเสี่ยงด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสามารถรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยครอบคลุมทุกมิติ ดังนี้

ด้านบุคลากร

มีการส่งเสริมศักยภาพและสร้างความตระหนักรู้ในด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ให้กับพนักงานทุกระดับผ่านโปรแกรมการเรียนรู้จากช่องทางที่หลากหลาย ครอบคลุมและเข้าถึงพนักงานทุกกลุ่ม เพื่อเตรียมพร้อมในการรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่มีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยมีการดำเนินการดังนี้

ด้านกระบวนการ

การพัฒนากระบวนการให้มีมาตรฐานและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถจัดการกับความเสี่ยงและรับมือกับเหตุการณ์ทางไซเบอร์ได้อย่างเป็นระบบ โดยมีการดำเนินการดังนี้

ด้านเทคโนโลยี

การนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูงมาใช้ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงปลอดภัย และป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ โดยมีการดำเนินการดังนี้

ผลจากการพัฒนาแนวปฏิบัติด้านความปลอดภัยและการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ตระหนักถึงความสำคัญของความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์อย่างต่อเนื่อง ทำให้ในปี 2567 บริษัทไม่พบกรณีการละเมิดด้านความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล และไม่มีเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อข้อมูลส่วนบุคคลของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม อย่างไรก็ตามผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายยังสามารถติดต่อหรือแจ้งเหตุผิดปกติหรือต้องสงสัยเกี่ยวกับปัญหาด้านไซเบอร์ได้ตามช่องทางด้านขวามือนี้

โดยข้อมูลเหตุการณ์ผิดปกติ ช่องโหว่ที่ตรวจพบ หรือกิจกรรมที่น่าสงสัยทางไซเบอร์ทั้งหมดจะถูกบันทึกใน Incident Management System และดำเนินการตาม Cybersecurity & Privacy Incident Response Procedure พร้อมจัดทำรายงานและถอดบทเรียน เพื่อยกระดับมาตรการป้องกันและสร้างความเชื่อมั่นว่าการจัดการความเสี่ยงด้านไซเบอร์ของบริษัทมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับมาตรฐานการกำกับดูแลกิจการที่ดี

กิจกรรมการจำลองการรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์ (Cyber Drill Simulation)

มิตรผลได้จัดกิจกรรมการจำลองการรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์ (Cyber Drill Simulation) เพื่อทดสอบความพร้อมของทีม IT ในการตอบสนองต่อเหตุการณ์ด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ โดยกิจกรรมมีการจำลองสถานการณ์ภัยคุกคามไซเบอร์ที่อาจเกิดขึ้นจริง โดยให้ทีมงานดำเนินการตอบสนองตามขั้นตอนการตอบสนองต่อเหตุการณ์ผิดปกติด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์และข้อมูลส่วนบุคคล (Cybersecurity and Privacy Incident Response Procedure) ควบคู่ไปกับ Business Continuity Plan (BCP) เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการบริหารจัดการเหตุการณ์สามารถสนับสนุนการดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง โดยกิจกรรมนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความมั่นใจและความเป็นมืออาชีพของทีมงานในการเผชิญหน้ากับภัยคุกคามทางไซเบอร์ในอนาคต อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมวัฒนธรรมความปลอดภัยไซเบอร์ในองค์กรอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

นโยบายที่เกี่ยวข้อง

นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของกลุ่มมิตรผล

นโยบายการกำกับดูแลข้อมูล

นโยบายการกำกับดูแลการประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์

Digital Transformation, Cybersecurity and
Data Protection Annual Report

Mitr Phol Group Sustainability
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.